จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 ที่ทำความเสียหายให้กับทรัพย์สิน ที่พักอาศัยเป็นจำนวนมาก หากเจ้าของบ้านมีการทำประกันภัยไว้คุ้มครองความเสี่ยงก็อาจจะได้รับการชดเชยและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้
เราลองมาค้นหาและกลับไปสำรวจกันว่าประกันภัยที่เราทำกันไว้นั้น คุ้มครองครอบคลุมภัยจากแผ่นดินไหวหรือไม่ ถ้าไม่มีควรจะต้องซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในอนาคตกันหรือไม่ ไปหาคำตอบกัน
ปัจจุบันกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหวมี 6 แผนประกันภัย ดังนี้
1. กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยแผ่นดินไหวไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี แต่ถ้ากังวลว่าจะไม่เพียงพอหากได้รับความเสียหายจากภัยแผ่นดินไหวก็สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้
กรณีที่อยู่อาศัยเป็นอาคารชุดหรือคอนโดมีเนียม ในส่วนของนิติบุคคลจะเป็นผู้ทำประกันภัยอาคารชุดให้กับผู้ที่พักอาศัยในอาคารชุดนั้น โดยเป็นการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk: IAR) ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวอาคารส่วนกลาง เช่น โครงสร้างอาคาร ลิฟต์ บันไดส่วนกลาง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เป็นของส่วนกลางเท่านั้น แต่จะไม่รวมความเสียหายภายในห้องพักอาศัย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองจากภัยแผ่นดินไหวตามจำนวนเงินจำกัดความรับผิด (Sub Limit)
แต่ถ้านิติบุคคลมีการทำประกันภัยที่คุ้มครองภายในห้องพักอาศัยด้วย ในส่วนนี้เจ้าของห้องที่พักอาศัยในอาคารชุดนั้นก็จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายจะรวมอยู่ในค่าส่วนกลางที่เจ้าของห้องพักต้องจ่ายให้กับนิติบุคคลอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ถือกรมธรรม์ต้องตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันภัยให้เข้าใจเพื่อจะได้แจ้งเคลมกับบริษัทประกันอย่างถูกต้อง
ขณะที่ในส่วนเจ้าของห้องชุดนั้น หากมีการทำประกันประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย กรมธรรม์จะให้คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในห้องชุด เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องตกแต่ง และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่อยู่ภายในห้องชุด โดยจะได้รับความคุ้มครองจากภัยแผ่นดินไหวไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี แต่สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้
2. กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย สำหรับสถานประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ กรมธรรม์นี้จะให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยแผ่นดินไหว เฉพาะกรมธรรม์ที่ซื้อความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหวเพิ่มเติมเท่านั้น
3. กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk: IAR) สำหรับผู้ประกอบกิจการร้านค้าทั่วไป สำนักงาน โรงแรม โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการต่าง ๆ ให้ความคุ้มครองความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินภายใน สิ่งปลูกสร้างที่เอาประกันภัยจากอุบัติเหตุใด ๆ ที่ไม่ได้มีการระบุข้อยกเว้นไว้ ได้รับความคุ้มครองจากภัยแผ่นดินไหวตามจำนวนเงินจำกัดความรับผิด (Sub Limit)
รวมถึงการทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก เพื่อคุ้มครองความเสียหายจากการหยุดชะงักของธุรกิจ ความสูญเสียในทางการค้า (รายได้ของผู้เอาประกันภัย) กำไรสุทธิ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสำนักงาน ค่าเช่าโรงงาน เป็นต้น) ที่มาจากการที่สิ่งปลูกสร้างใด ๆ หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ผู้เอาประกันภัยใช้เพื่อประกอบธุรกิจได้รับความเสียหาย และได้รับความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยหรือกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินและไม่ได้มีการระบุยกเว้นไว้
4. กรมธรรม์ประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาการก่อสร้าง สำหรับผู้ว่าจ้างหรือผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งให้ความคุ้มครองต่องานก่อสร้าง งานปรับปรุงสถานที่ งานตกแต่ง หรืองานติดตั้งเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ อันไม่อาจคาดหมายได้ หรือด้วยสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุในข้อยกเว้น โดยให้ความคุ้มครองภัยแผ่นดินไหว ประกอบด้วย งานก่อสร้างและวิศกรรมโยธาการติดตั้งเครื่องจักร และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
5. กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยแผ่นดินไหวเฉพาะกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 เท่านั้น ส่วนกรมธรรม์ประเภท 2 ประเภท 3 หรือประเภท 5 (2+ และ 3+) สามารถซื้อเป็นเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองภัยธรรมชาติ หรือแยกซื้อภัยแผ่นดินไหวเพิ่มได้
6. กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุ คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายรวมถึงชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงอุบัติเหตุจากแผ่นดินไหวด้วย
สำหรับผู้ที่มีประกันภัยแล้วลองสำรวจดูว่า กรมธรรม์ที่มีอยู่ครอบคลุมภัยแผ่นดินไหวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็ควรจะซื้อเพิ่มได้แล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ กับวลีเด็ด “รู้งี้ทำนานละ”

6 ขั้นตอนเคลมประกันแผ่นดินไหว
สำหรับผู้ที่มีการทำประกันอัคคีภัยบ้านอาศัย หรือประกันภัยทรัพย์สินเอาไว้นั้นหากกรมธรรม์มีความคุ้มครองเรื่องของภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว สามารถแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายได้ใน 6 ขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย โดยผู้เอาประกันต้องตรวจสอบกรมธรรม์ ว่ากรมธรรม์ให้ความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายจากเหตุภัยพิบัติอะไรบ้าง พร้อมดูเงื่อนไข วงเงินคุ้มครอง และข้อยกเว้นอย่างละเอียด
- ขั้นตอนที่ 2 แจ้งเหตุให้บริษัทประกันภัย ตามช่องทางของบริษัท โดยระบุ วันที่ เวลา สถานที่ อธิบาย ลักษณะความเสียหาย
- ขั้นตอนที่ 3 เก็บหลักฐานความเสียหาย โดยการถ่ายภาพ – วิดีโอทำรายการทรัพย์สินเสียหาย พร้อมแนบใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อ (ถ้ามี) เพื่อประกอบการพิจารณา
- ขั้นตอนที่ 4 ยื่นคำร้องขอเคลมประกันกับบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่แต่ละบริษัทกำหนดไว้
- ขั้นตอนที่ 5 บริษัทประกันภัยตรวจสอบข้อมูลความเสียหาย
- ขั้นตอนที่ 6 รอการพิจารณาและรับเงินเคลม
ทั้งนี้ หากพบปัญหาหรือถูกปฏิเสธเคลมประกันสามาถร้องเรียนที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือ สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502
สำหรับผู้สนใจสามารถเลือกซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 MONEY EXPO 2025 BANGKOK ภายใต้แนวคิด “Resilient Wealth” ที่วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นในวันที่ 15-18 พฤษภาคม 2568 ชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยเปิด 7 โซนบริการด้านการเงินการลงทุนครบวงจร พร้อมขนทัพแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษจากธนาคาร/สถาบันการเงิน/บล.บลจ./ บริษัทประกัน/หน่วยงานภาครัฐและเอกชนคับคั่ง พร้อมกิจกรรมสัมมนาจากกูรูชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย และกิจกรรมความบันเทิงมากมาย