ใกล้สิ้นปี 2568 นักลงทุนเริ่มมองหากองทุนลดหย่อนภาษี “ThaiESG” ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งผลตอบแทนและการลงทุนอย่างยั่งยืน มาดูกันว่ากองทุนไหนให้ผลตอบแทนโดดเด่นที่สุด
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี หลายคนเริ่มจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อเตรียมวางแผนภาษี โดยหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในปีนี้คือ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืนไทย (ThaiESG) ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจที่ดำเนินงานตามแนวทาง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ผู้ลงทุนในกองทุน ThaiESG สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ไม่เกิน 30% ของเงินได้ทั้งปี และไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องถือหน่วยลงทุนไว้อย่างน้อย 8 ปีเต็ม เพื่อให้ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีตามที่กฎหมายกำหนด

การเงินธนาคาร รวบรวม 10 อันดับกองทุน ThaiESG ที่ทำผลตอบแทนสูงสุดย้อนหลัง 1 ปี ดังนี้
อันดับ 1 : กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน – ไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า (KFGBTHAIESG-A) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ที่ 9.82%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
กองทุนลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือตราสารหนี้ที่รัฐบาลออกเพื่อสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม หรือความยั่งยืน (Green / Social / Sustainability Bond) เพื่อสร้างทั้งผลตอบแทนและผลลัพธ์เชิงบวกต่อประเทศ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงพร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี
อันดับ 2 : กองทุนเปิดเค ตราสารภาครัฐ ESG ชนิด ไทยเพื่อความยั่งยืน (K-ESGSI-ThaiESG) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 9.04%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มีการดำเนินงานตามหลัก ESG อย่างชัดเจน โดยลงทุนในตราสารดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAV มุ่งสร้างผลตอบแทนคงที่ ความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง และตอบโจทย์นักลงทุนสายอนุรักษ์ความเสี่ยง
อันดับ 3 : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ไทยยั่งยืน (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนแบบสะสมมูลค่า) (SCBTB (ThaiESGA)) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 8.71%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
กองทุนลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับ ESG ดีเด่น โดยมีเป้าหมายสร้างเสถียรภาพของผลตอบแทนในระยะยาว และคัดเลือกผู้ออกตราสารที่มีธรรมาภิบาลสูง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง
อันดับ 4 : กองทุนเปิดกสิกรไทย ตราสารภาครัฐ ESG (ชนิด ไทยเพื่อความยั่งยืน) (KTESGS-ThaiESG) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 8.61%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมของรัฐ พร้อมคัดกรองตามเกณฑ์ ESG ของ บลจ.กสิกรไทย เน้นความมั่นคง เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนคงที่และรับความเสี่ยงได้ต่ำ
อันดับ 5 : กองทุนรวมบัวหลวงตราสารการลงทุนภาครัฐไทยเพื่อความยั่งยืน (B-SI-THAIESG)ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 8.19%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ใช้เงินระดมทุนเพื่อโครงการยั่งยืน โดยคัดเลือกผู้ออกที่มีการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ชัดเจน เน้นบริหารอายุพันธบัตรให้เหมาะสมกับสภาวะดอกเบี้ย
อันดับ 6 : กองทุนเปิดเค พรีเมียมพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน (KKP GF-THAIESG-A) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 8.04%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
มุ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ที่มีความมั่นคงสูง เน้นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ เช่น โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และพลังงานสะอาด เหมาะกับผู้ที่ต้องการถือระยะยาวและรับความผันผวนต่ำ
อันดับ 7 : กองทุนเปิดทีเอ็มบี ทีเอสไอเอส ตราสารภาครัฐไทยเพื่อความยั่งยืน (TSITAIESG) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 7.49%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคม โดยใช้กลยุทธ์บริหารระยะเวลาคงเหลือของตราสาร (Duration Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลตอบแทนเมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลง
อันดับ 8 : กองทุนเปิดอีสท์สปริง ESG Mixed 30/70 ชนิด ไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า (ES-ESG370-ThaiESG-A) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 3.75%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
กองทุนผสมที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้สัดส่วนประมาณ 30:70 โดยเน้นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และตราสารหนี้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน มีการปรับสัดส่วนตามภาวะตลาดเพื่อควบคุมความเสี่ยง
อันดับ 9 : กองทุนเปิดอีสท์สปริง ESG Mixed 30/70 ชนิด ไทยเพื่อความยั่งยืนปันผล (ES-ESG370-ThaiESG-D) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 3.74%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
มีโครงสร้างพอร์ตเหมือนกับรุ่นสะสมมูลค่า แต่เน้นจ่ายเงินปันผลเป็นระยะ เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้ผู้ลงทุน เหมาะกับผู้ที่ต้องการรายได้ประจำ และยังต้องการลงทุนในสินทรัพย์ตามแนวคิด ESG
อันดับ 10 : กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เฟล็กซิเบิล เพื่อความยั่งยืน (MFLEX-ThaiESG) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ -1.64%
นโยบายและกลยุทธ์การลงทุน
เป็นกองทุนผสมที่สามารถปรับน้ำหนักการลงทุนระหว่างหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือกตามภาวะตลาด โดยคัดเลือกเฉพาะบริษัทที่มีมาตรฐาน ESG ดี แม้ผลตอบแทนปีล่าสุดติดลบ แต่เน้นศักยภาพฟื้นตัวในระยะยาวจากการกระจายความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์
ทั้งนี้ สามารถเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG และผลิตภัณฑ์การลงทุน ต่างๆ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ส่งท้ายปี ครั้งที่ 8 MONEY EXPO 2025 BANGKOK YEAR-END ภายใต้แนวคิด “Resilient Wealth การสร้างความมั่งคั่งทางการเงินแบบยืดหยุ่นเพื่อความยั่งยืน” ที่วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นในวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่มา Settrade
ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 2568

