สำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน ชีวิตการทำงานประจำที่ต้องแข่งกับเวลาและภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ บางทีก็ทำให้เรามองข้ามเรื่องสำคัญอย่างการวางแผนความคุ้มครองให้กับตัวเองไป
รู้ไหมว่าทุกวันนี้ “ประกัน“ ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่มีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละคน แล้วมนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรเลือกประกันแบบไหนดี?
ก่อนอื่น… ลองถามตัวเองก่อนว่า “อะไรคือสิ่งที่เรากังวลที่สุด?”
ถ้าห่วงคนข้างหลัง : กลัวว่าถ้าเราไม่อยู่แล้ว คนที่เรารักจะลำบาก
ถ้าอยากมีเงินเก็บ : มองหาช่องทางออมเงินที่มั่นคง ได้ผลตอบแทน
ถ้ากังวลเรื่องวัยเกษียณ : อยากมีเงินใช้สบายๆ ในวันที่ไม่ได้ทำงานแล้ว
ถ้ากลัวค่ารักษาพยาบาล : กังวลว่าถ้าเจ็บป่วยหนักๆ จะมีค่าใช้จ่ายเยอะ
ถ้าห่วงโรคร้าย : กลัวเป็นโรคร้ายแรงแล้วกระทบต่อเงินเก็บและชีวิต
ถ้าใช้ชีวิตเสี่ยง : เดินทางบ่อย ทำกิจกรรมที่อาจเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อรู้ความกังวลของตัวเองแล้ว ลองมาดูประเภทของประกันที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์เงินเดือนกัน
7 แบบประกันที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้จัก
1.ประกันชีวิต : เปรียบเสมือนมี “ตาข่าย” คอยดูแลคนที่คุณรัก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเสียชีวิต คนที่คุณระบุไว้ (ผู้รับผลประโยชน์) จะได้รับเงินก้อนหนึ่งไปใช้จ่ายต่อ ประกันชีวิตจึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีครอบครัว พ่อแม่ ภรรยา หรือลูกที่ต้องดูแล
2.ประกันสะสมทรัพย์: เปรียบเสมือน “กระปุกออมสิน” ที่ให้มากกว่าเงินเก็บ เพราะนอกจากจะได้เงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ก็ยังได้รับเงินชดเชยด้วย จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากเก็บเงินพร้อมกับมีความคุ้มครอง
3.ประกันบำนาญ: เปรียบเสมือน “เงินเดือนสำรอง” สำหรับวัยเกษียณ ช่วยให้เรามีเงินใช้จ่ายสบายๆ หลังเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อน หรือเงินรายเดือน/รายปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว
4.ประกันสุขภาพ: เปรียบเสมือน “เกราะป้องกัน” ค่ารักษาพยาบาลที่นับวันยิ่งแพง การมีประกันสุขภาพช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าหมอ ค่ายา โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่อาจไม่มีสวัสดิการครอบคลุม
5.ประกันโรคร้ายแรง: เปรียบเสมือน“วัคซีนทางการเงิน” สำหรับโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น รับความคุ้มครองเป็นเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แม้เบี้ยประกันอาจไม่สูงมาก แต่ให้วงเงินคุ้มครองที่สูง ช่วยให้เรามีเงินไปรักษาตัวและดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
6.ประกันอุบัติเหตุ: เปรียบเสมือน “เพื่อนร่วมทางที่คอยดูแล” คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยต่างๆ หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย หรือทำกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยง
7.ประกันการเดินทาง: เปรียบเสมือน “ผู้ช่วยส่วนตัว” ในทุกทริปการเดินทาง ให้ความคุ้มครองตลอดทริป ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินยกเลิก กระเป๋าหาย เจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ ซื้อได้ง่ายๆ ผ่านออนไลน์ เบี้ยประกันหลักร้อย แต่คุ้มครองหลักล้าน
แล้วมนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรเลือกแบบไหนดี? จริงๆ แล้ว ไม่มีประกันแบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ครับ การเลือกประกันที่ใช่ขึ้นอยู่กับ ความจำเป็น และ ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละคน
เริ่มต้นทำงาน : อาจจะเน้น ประกันสุขภาพ และ ประกันอุบัติเหตุ ก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงพื้นฐานที่อาจเกิดขึ้น
เริ่มมีครอบครัว : ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพ อาจเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ
อยากมีเงินเก็บระยะยาว : ลองดู ประกันสะสมทรัพย์ หรือ ประกันบำนาญ
กังวลเรื่องโรคร้าย : ประกันโรคร้ายแรง เป็นสิ่งที่ควรมีไว้
เดินทางบ่อย : อย่าลืม ประกันการเดินทาง
เคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกประกัน
- สำรวจความจำเป็น: ถามตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เรากังวลที่สุด และต้องการความคุ้มครองในด้านไหน
- พิจารณางบประมาณ: เลือกประกันที่เบี้ยประกันไม่สูงจนเกินไป จนกระทบกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- ศึกษาข้อมูล: อ่านรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นของแต่ละแบบประกันให้เข้าใจ
- เปรียบเทียบ: ลองดูหลายๆ บริษัท หลายๆ แบบ เพื่อหาความคุ้มครองที่ตรงใจและคุ้มค่าที่สุด
สำหรับผู้สนใจสามารถเลือกซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 MONEY EXPO 2025 BANGKOK ภายใต้แนวคิด “Resilient Wealth” ที่วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นในวันที่ 15-18 พฤษภาคม 2568 ชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยเปิด 7 โซนบริการด้านการเงินการลงทุนครบวงจร พร้อมขนทัพแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษจากธนาคาร/สถาบันการเงิน/บล.บลจ./ บริษัทประกัน/หน่วยงานภาครัฐและเอกชนคับคั่ง พร้อมกิจกรรมสัมมนาจากกูรูชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย และกิจกรรมความบันเทิงมากมาย